Project : The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate
ก็จริงอยู่นะครับ…ที่ส่วนใหญ่แล้วโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxuruy หลายต่อหลายโครงการที่เราเคยเห็นเปิดตัวกันมา ส่วนใหญ่แล้วทำเลที่ตั้งของโครงการก็มักจะไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าทั้ง BTS หรือ MRT … ส่วนหนึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะเรื่องของรูปแบบการอยู่อาศัยที่ต้องการเรื่องของความเป็นส่วนตัว และ คนที่อยู่อาศัยในโครงการระดับนี้ก็อาจไม่ได้นิยมที่จะต้องการใช้บริการรถไฟฟ้าในการเดินทางมากนัก ทำให้รูปแบบการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxuruy นั้นจึงไม่ค่อยจะมีความจำเป็นที่ต้องมีทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า แต่ส่วนใหญ่ Developer จะเน้นไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการบนพื้นฐาน Concept เรื่องของตัว Unit Plan , Function Layout , จำนวนยูนิตการอยู่อาศัยในโครงการ หรือ จำนวนที่จอดรถ ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นเรื่องที่จะตอบโจทย์ความเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury ของคนระดับนี้ได้มากกว่านั้นเอง
โดยรูปแบบการพัฒนาโครงการคอนโดมินียมในระดับ Luxury ในบ้านเรา ก็เป็นในรูปแบบนี้กันมาอย่างเนินนาน ถามว่า … ความคิดในการพัฒนาโครงการแบบนี้ถูกต้องมั้ย? หรือว่ามันตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนกลุ่มนี้ได้จริงมั้ย? ถามผม … ถ้าเป็นเมื่อก่อนช่วง 4 – 5 ปีก่อนลงไป ผมก็มีความคิดไม่แตกต่างกับที่ได้บอกไปในตอนต้นนะครับ แต่นั้นคือการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxuruy เพื่อมุ่งเน้นในการตอบโจทย์สำหรับผู้ซื้อที่เน้นเรื่องของการอยู่อาศัยเองเป็นหลัก
แต่พอมาถึงในยุคสมัยปัจจุบัน…ที่ราคาของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆที่เปิดตัวในบ้านเรามีราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด การที่ Developer จะพัฒนาโครงการใดโครงการหนึ่งขึ้นมาแล้วจะโฟกัสหาแต่ Real Demand หรือคนที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงแต่เพียงกลุ่มเดียว ก็ดูจะเป็นการพัฒนาโครงการที่ดูจะมีความเสี่ยงในการจะเปิดขายแล้วจะไม่ได้ผลตอบรับที่ดีเท่าที่ควร
ดังนั้นเราจึงเริ่มได้เห็นว่าหลายโครงการที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury นั้นเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของการเลือกทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าในการพัฒนาโครงการมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสถานีรถไฟฟ้าสาย BTS ที่อยู่ในโซนสุขุมวิท
การที่ Developer เลือกที่จะเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury โดยยึดทำเลในโซนสุขุมวิทเป็นหลักนั้น เป็นเพราะ ทำเลสุขุมวิท ยังคงเป็นทำเลในอันดับต้นๆของประเทศที่ยังคงมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต และ มีรูปแบบ Lifestyle ในการอยู่อาศัยที่ดูน่าจะถูกใจกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาอยู่อาศัย ทำงาน หรือ ท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นเอง พูดถึงตรงนี้หลายคนก็จะเริ่มมองออก ร้องออออ… กันนะครับ
ใช่ครับ… การที่ราคาคอนโดมิเนียมบ้านเรามีราคาที่สูงขึ้นในวันนี้ ทำให้ Developer หลายเจ้าก็ต้องมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ และ กลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่ยังมีกำลังซื้อนั้นก็คือกลุ่มชาวต่างชาตินั้นเอง และทำเลที่จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติ หรือ เป็นทำเลที่ชาวต่างชาติรู้จัก ทำเลอันดับหนึ่งคงนี้ไม่พ้นทำเลสุขุมวิท [อโศก พร้อมพงศ์ และ ทองหล่อ]
จากที่ผมได้กล่าวถึงในตอนต้นทั้งหมด คำถามที่ตามมาในความคิดของผม นั้นคือ แล้วถ้าโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury ถูกพัฒนาโครงการบนทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS รูปแบบในการพัฒนาและ Concept ของโครงการ รวมถึง Unit Plan จะถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบไหน? อย่างไร? และยังคงมีความน่าสนใจหรือคงความเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury ได้มากน้อยแค่ไหน?
จึงทำให้เป็นที่มาสำหรับบทความ Project : The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate ในครั้งนี้ กับโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury บนทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ซึ่งตอนนี้ตัวโครงการกำลังอยู่ในระหว่างช่วงของงานก่อสร้าง และจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเข้าอยู่ได้ช่วงประมาณปลายปี 63 ที่จะถึงนี้
ใช่ครับ อันที่จริง … โครงการนี้ได้มีการเปิดตัวหรือเปิดขาย PreSale ไปแล้วเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว แต่สาเหตุที่ผมอยากจะขอนำโครงการนี้กลับมาพูดถึงใหม่อีกครั้ง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข้อสงสัยในความคิดของผมที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้น และ อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ทางโครงการ The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate ได้มีการย้ายสำนักงานขายโครงการมาอยู่ที่อาคาร Singha Complex นั้นเองครับ
เลยทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าไปเก็บภาพบรรยากาศสำนักงานขายใหม่รวมถึงห้องตัวอย่างของโครงการ The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate เลยคิดว่าไหนๆก็ได้มีโอกาสมาถ่ายภาพแล้วก็ขอหยิบยกข้อมูลของโครงการนี้ที่น่าสนใจมานำเสนอให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ
ซึ่งในส่วนของบทความ Project : The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate นี้ นอกเหนือจากเรื่องของ Project Information ต่างๆของโครงการนี้ที่น่าสนใจและ ผมจะทำการวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout ของ Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างของโครงการนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครที่กำลังให้ความสนใจโครงการนี้นะครับ
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 36 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. [ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ]
ขนาดที่ดิน : 2 – 2 – 0 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 45 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : ยูนิตพักอาศัย 338 ยูนิต
Unit Type : Floor to Ceiling 3.00 m. , รูปแบบ Fully Furnished โดยในส่ววนของห้องตัวอย่างที่อยู่ที่สำนักงานขายจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 Type นั้นก็คือ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 38.50 ตร.ม. กับ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 73.50 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 38.50 – 43.25 ตร.ม.
ในส่วนของ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 38.50 ตร.ม. เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็จะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งเข้ามุม โดยมีส่วนของเคาน์เตอร์อ่างล้างจานทำหน้าที่ในการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ระหว่าง Function : Kitchen กับ Living + Dining เพื่อเป็นการเพิ่มความเป็นสัดส่วนให้กับพื้นที่ในแต่ละ Function
ส่วนของ Function : Dining จะเป็นรูปแบบเคาน์เตอร์ รองรับแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งการออกแบบและจัดวาง Function แบบนี้ ก็เพื่อให้ความสำคัญกับส่วนของพื้นที่ Function : Living นั้นเองครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Living จะเป็นตำแหน่งพื้นที่ที่อยู่ติดกับส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกของตัวห้อง โดยขนาดพื้นที่ในส่วนนี้จะมีสัดส่วนพื้นที่เป็นอันดับ 2 ของห้อง ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป อารมณ์แบบว่าถ้าเล็กกว่านี้อีกนึดหนึ่งก็คงดูอึดอัดและเล็กเกินไปประมาณนั้นนะครับ
ส่วนสัดส่วนขนาดพื้นที่ Function ที่มีสัดส่วนพื้นที่เป็นอันดับที่ 1 สำหรับ Unit Plan นี้นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom นั้นเองครับ
โดยภายในส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom จะมีส่วนของพื้นที่ Function : Walk In Closet แบ่งพื้นที่ Function การใช้งานออกเป็นซ้าย-ขวา ซึ่งพื้นที่นี้จะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ด้านใน
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom รูปแบบการตกแต่งเน้นความอบอุ่นและเรียบหรู สบายตา โดยภายในจะเป็นรูปแบบ 4 Fixtures แบบแยก Function การใช้งานกันอย่างชัดเจน
ข้อสังเกตเพิ่มเติมที่น่าสนใจ … สำหรับ Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนักของโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury การจัดสรรพื้นที่ในแต่ละ Function คนออกแบบจะเน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่หลักที่เป็นพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยจะใช้เวลาในการอยู่อาศัยมากที่สุด นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom นั้นเองครับ
2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 73.50 – 77.00 ตร.ม.
สำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom ในส่วนของห้องตัวอย่างที่อยู่ที่สำนักงานขายใหม่ จะเป็น Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 73.50 ตร.ม. นะครับ
เมื่อเราเปิดประตูห้องเข้ามาภายในจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen โดยรูปแบบการจัดวางพื้นที่จะเป็นการขนานไปกับทางเดินหลักของห้อง โดยจะมีการเพิ่มส่วนของ Function : Island เข้ามา เพื่อเป็นการแยกสัดส่วนระหว่างพื้นที่ Function : Kitchen กับส่วนของพื้นที่ทางเดินหลักของตัวห้อง
ตำแหน่งการจัดวางส่วนของพื้นที่ Function : Dining จะถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่อยู่ติดกับส่วนของพื้นที่ Function : Island เพื่อให้เกิดความสะดวกและตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่มากที่สุด โดยการจัดวางในส่วนของโต๊ะทานข้าวจะสามารถจัดวางเป็นแบบ 4 ที่นั่งได้และดูลงตัวมากที่สุดกับพื้นที่ในส่วนของ Function นี้
ด้วยความที่ตำแหน่งการวางของ Unit Plan ในหากดูจากภาพ Floor Plan ตำแหน่งของ Unit Plan นี้จะเป็นตำแหน่งมุม ดังนั้นในส่วนของพื้นที่ Function : Living สำหรับ Unit Plan นี้จึงได้ส่วนของบานหน้าต่างเพิ่มเข้ามาบริเวณตำแหน่งด้านหลังของ Sofa ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้รับแสงสว่างเพื่อเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยในพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ และ ยังทำให้ภายรวมของ Unit Plan นี้ดูดีมากขึ้นเยอะเลยครับ
ส่วนพื้นที่บริเวณด้านข้างของพื้นที่ Function : Living จะเป็นส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกของตัวห้อง ซึ่งจะได้พื้นที่ระเบียงที่มีความกว้างกับขนาดพื้นที่ที่ผมมองว่าลงตัวมากๆครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom จะอยู่ในโซนที่เป็น Private Area ของห้อง โดยหากมองจากขนาดพื้นที่ของ Function นี้ ผมว่าดูลงตัวมากๆนะครับ ไม่เล็กหรือคับแคบแต่อย่างใด แต่ในส่วนของพื้นที่ Function นี้จะไม่มีส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom อยู่ด้านในนะครับ
ดังนั้นสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยภายในพื้นที่ Function : Bedroom จะต้องออกมาใช้ Function : Bathroom ที่อยู่ตรงบริเวณทางเดินด้านนอก โดยภายในพื้นที่ Function : Bathroom นี้จะเป็นแบบ 3 Fixtures เท่านั้น จะไม่มีส่วนของ Bathtub นะครับ
ส่วนของพื้นที่ที่เป็นเหมือน Hilight สำหรับ Unit Plan นี้ ก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom อีกเช่นเคยนะครับ … เมื่อดูจากภาพด้านล่าง บอกตามตรงผมชอบอารมณ์ของทางเดินเข้าสู่ภายในพื้นที่ Function : Master Bedroom ของ Unit Plan นี้มากๆ คือได้อารมณ์ความเป็นส่วนตัว และ ดูสงบดีนะครับ
บริเวณด้านข้างของทางเดินจะเป็นส่วนที่มีการ Build In ตู้เสื้อผ้า เลยทำให้ได้ความเป็น Walk In Closet เพิ่มเข้ามาจากพื้นที่ที่เป็นทางเดินนี้นะครับ
ส่วนของพื้นที่ที่เป็นตำแหน่งในการวางส่วนของเตียงนอนที่อยู่ด้านในสุด พื้นที่ในส่วนนี้จะได้ความรู้สึกโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยภายในจากการที่พื้นที่ Function นี้จะได้กระจกบริเวณปลายเตียงเป็นแบบเข้ามุม ซึ่งจะเปิดมุมมองในเรื่องของวิวจากตำแหน่งหัวนอนได้มากยิ่งขึ้น
และด้วยความเป็น Function : Master Bedroom ดังนั้นภายในพื้นที่ในส่วนนี้ Function ที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom นั้นเองนะครับ โดยภายในพื้นที่ในส่วนนี้จะเป็นรูปแบบ Function แบบ 4 Fixtures มีส่วนของ Bathtub เพิ่มเข้ามา
ข้อสังเกตเพิ่มเติมที่น่าสนใจ … การออกแบบและจัดวาง Function Layout โดยรวมสำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 73.50 ตร.ม. ทางโครงการจะเน้นให้ความสำคัญในส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom เป็นสาระหลัก
ซึ่งในส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom หากมองจากระดับโครงการที่เป็น Luxury ผมว่ากลุ่มผู้ซื้ออาจจะไม่ได้ใช้พื้นที่ Function นี้ในการทำเป็น Function : Bedroom ตามแบบที่เห็นจากห้องตัวอย่างที่ได้วิเคราะห์ไป อาจจะปรับให้เป็น Function : ห้องอเนกประสงค์ หรือ ห้องทำงาน แทน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะดูลงตัวไปอีกแบบนะครับ
3 Bedroom ขนาดพื้นที่ 116.75 – 124.25 ตร.ม.
Penthouse ขนาดพื้นที่ 252.00 ตร.ม.
Floor Plan : จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 12 ยูนิตต่อชั้น
Facilities : Lobby , Parking Space , Mailbox & Storage Space , Sunken Lawn Garden on 1st Floor , Water Garden on 7th Floor , Rice Field Garden on 41th Floor , Roof Orchard on 43th Floor and Rooftop , The Reading Lounge , Swimming Pool with Separate Kid’s Pool ขนาด 25 x 6 ม. ลึก 1.2 ม. [ระบบเกลือ] , Fitness , Virtual Bike , Golf Simulator , Steam Room , Onsen , Treatment Room , Kids Room , Sky lounge , The Residence Lounge , Space for Private Parties , Sky Theater , BBQ Deck , ระบบ CCTV / Access Card
Service : 24-Hour Security by guard service , Wifi internet at public area on 1st, 7th, 8th, 41st, 43rd Floor and Rooftop
จำนวนที่จอดรถ : 70% (Automatic Parking) + 30% (Conventional Parking)
ค่าส่วนกลางและค่ากองทุน : 100 / 1,000 บาทต่อ ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 12.6 ล้านบาท*
สำหรับในส่วนของบทความ Project : The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate ก็จะประมาณนี้นะครับ ซึ่งผมมองว่าการปรับตัวของ Developer ที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury โดยเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าจะเริ่มมีให้เห็นเปิดตัวโครงการใหม่กันมากขึ้นแน่นอนในอนาคตอันใกล้ ในวันที่ต้นทุนราคาที่ดินยังคงสูงขึ้นและมีความ Rare มากขึ้นนะครับ ส่วนใครที่อ่านบทความนี้แล้วอยาจะแวะไปชมห้องตัวอย่างของโครงการนี้ ด้วยตาตัวเองก็สามารถติดต่อนัดหมายเข้าชมโครงการกันได้ที่ เบอร์โทร : 1221
สุดท้ายนี้ก็เช่นเคยนะครับ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury ไม่ว่าจะเป็นโครงการนี้ หรือ โครงการอื่นๆ หากมีข้อสงสัยในเรื่องของ Function Layout ของ Unit Plan ไหนที่คุณกำลังสนใจก็สามารถพิมพิ์ Inbox เข้ามาสอบถามและเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นกับทางผมได้เช่นเคยนะครับ
เพิ่มเติม …
The Esse Sukhumvit 36 by Singha Estate
Celebrating The New “SHOW UNITS” at SINGHA COMPLEX
Promotion : Fully Furnished , Gift Voucher 100,000 Baht
Register online to receive Gift Voucher 100,000 Baht : https://theesse36.singhaestate.co.th
Tel : 1221
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ