Open House : LIFE Rama 4 – Asoke by AP Thailand

คำว่า LIFE ในความหมายของคนทั่วไป … ผมเชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจความหมายของคำคำนี้กันดีตามแต่รูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน แต่หากคำว่า LIFE ที่เป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองจากทาง AP Thailand ภาพของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์นี้ คุณคาดหวังจะเห็นรูปแบบการอยู่อาศัยและการพัฒนาโครงการออกมาในรูปแบบไหนกันบ้าง ?

สำหรับคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE by AP Thailand ในภาพจำและความคาดหวังของตัวผม คือ โครงการคอนโดมิเนียมจากทางบริษัทอสังหาฯชั้นนำอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่เลือกจะพัฒนาโครงการภายใต้จุดขายหลักๆ ที่แข็งแกร่งมากๆ 3 เรื่อง

นั่นก็คือ ทำเลที่ตั้งโครงการใจกลางเมืองกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ได้ทั้งขนาดความแกรนด์ของพื้นที่และความว้าวววว … ใน Function ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ในราคาที่ยังจับต้องได้กับ Demand ทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่เป็น Real Demand ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเองและกลุ่มที่เป็นสาย Investment การลงทุนสายปล่อยเช่า

โดยโครงการที่ผมจะขอพาทุกคนไปชมและพูดถึงกันในบทความนี้ นั่นก็คือโครงการ LIFE พระราม 4 – อโศก โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่จะมาเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กในการอยู่อาศัยแห่งใหม่ใจกลางเมือง ที่ถูกพัฒนาโครงการให้ออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ CHOOSE LIFE CHOOSE EVERYTHING ชีวิตที่ไม่ต้องเลือกเพราะคุณได้ทุกอย่าง กับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางออกมาแบบสุดอลังการมากถึง 5 ชั้น (Quintuple Facilities) รวมพื้นที่แล้วมากกว่า 5 ไร่ ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ WORK – PLAY – CHILL – PEACE ใจกลางเมือง 

ซึ่งสำหรับโครงการ LIFE พระราม 4 – อโศก นี้ ผมก็ต้องขอยอมรับเลยว่าเป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในปีนี้ ที่ได้รับกระแสความสนใจจากกลุ่มแฟนเพจของเราที่เข้ามาสอบถามกันอย่างต่อเนื่องและจัดว่าเยอะมากๆ ตั้งแต่สมัยที่โครงการนี้ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างจนมาถึงวันนี้ที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และส่วนตัวก็ไม่ได้แปลกใจหรือเซอร์ไพรส์อะไรนะครับ

เพราะนอกจากที่โครงการนี้จะมีความน่าสนใจในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่สุดอลังการอย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นแล้ว ทำเลที่ตั้งของตัวโครงการนี้เองยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งในทำเลใจกลางเมืองที่มีศักยภาพสูงมากๆ ของกรุงเทพฯ อย่างทำเล พระราม 4

ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่ในปัจจุบันทำเลพระราม 4 นี้มีการเติบโตของความพยายามในการพัฒนาทำเลนี้ให้เป็นอีกหนึ่งทำเลย่านธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ ที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญที่น่าสนใจอย่าง สวนเบญจกิติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ , Smart City Port , โรงพยาบาลเมดพาร์ค, อาคารสำนักงานเปิดใหม่หลายแห่งและยังคงมีเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่นโครงการ Mix-Used ขนาดใหญ่อย่าง One Bangkok และ DUSIT CENTRAL PARK อีกด้วยนั่นเองครับ

เพิ่มเติม … นอกเหนือจากเรื่องของศักยภาพในการเติบโตของทำเลพระราม 4 แล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจของโครงการนี้ที่น่าจะทำให้ใครหลายคนยิ่งหลงรักโครงการนี้เพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก นั่นก็คือ การได้ทัศนียภาพสุดตระการตาบนพื้นที่ส่วนกลาง Rooftop Facilities [ ชั้น 36 -39 ] เปิดรับวิวสวยใจกลางเมืองได้ถึง 3 มุมมอง ทั้งวิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยเส้นสายของแม่น้ำเจ้าพระยาที่โค้งมนสวยงามเสน่ห์แห่งคุ้งบางกะเจ้า, หรือจะเป็นวิวความสดชื่นสบายตาของสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 800 ไร่ ปอดแห่งใหม่ของคนเมืองอย่างสวนเบญจกิติ และวิวไฟแสงสีระยิบระยับในเมืองของฝั่งสุขุมวิท – อโศก อีกด้วยนะครับ

กลัมมาต่อกันที่ส่วนสำคัญและน่าจะเป็นหนึ่งในไฮไลท์หลักที่ทำให้ใครหลายคนให้ความสนใจโครงการนี้ นั่นคือส่วนของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางกันนะครับ … หากถามผมว่าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้เป็นยังไงบ้างในมุมมองของผม ?

ผมขอให้คำจำกัดความการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ LIFE พระราม 4 – อโศก นี้ว่า … ” มาตรฐานของพื้นที่ส่วนกลางของ LIFE by AP Thailand มันต้องแบบนี้!! ดีย์ ” คือ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ออกแบบและทำออกมาได้ดีมากๆ และอยู่ในมาตรฐานความเป็นแบรนด์ LIFE by AP Thailand เลยครับ

การออกแบบดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะประกอบไปด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้น (Quintuple Facilities) ซึ่งหากเรานับพื้นที่รวมจะได้มากกว่า 5 ไร่กันเลยนะครับ ซึ่งเราจะสามารถแบ่งออกเป็นส่วนพื้นที่ส่วนกลางที่ ชั้น 1 [ On Ground ] และ ส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง Rooftop Facilities ที่ชั้น 36 – 39

พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 [ On Ground ] จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ภายในตัวอาคารซึ่งจะประกอบไปด้วยส่วนของพื้นที่ The Parlour, PLayfulness Bar, Semi Outdoor Lobby, The Reception, Chilled Out Lab และ The Green Tunnel

พื้นที่ชั้น 1 จะเน้นเรื่องของขนาดการใช้งานพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่มาก และยังมีการแยกโซนย่อยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกใช้งานพื้นที่ได้อีกถึง 6 โซน ในส่วนของการตกแต่งและการจัดสรรพื้นที่ ทางโครงการจะออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบต่างๆ ทั้งการใช้เป็นมุมรับรอง มุมพักผ่อน มุมนั่งเล่น ตลอดไปจนถึงมุมนั่งทำงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีไว้รองรับพร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน

ยังไม่หมดครับ … สำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่ Rooftop Facilities ที่ชั้น 36 จะมีส่วนของพื้นที่ The Circular Lounge และ Sky Studio ต่อมาที่ชั้น 37 กับ The Common สุดท้าย Rooftop Garden ที่ชั้น 39 บนสุดเพิ่มเติมเข้ามาด้วยนะครับ

โดยหนึ่งในไฮไลต์ของพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ … ผมก็ต้องขอยกให้กับ The Circular Lounge ที่ทางโครงการออกแบบและตกแต่งออกมาได้อย่างหรูหรามากๆ แถมยังเป็นพื้นที่ที่เปิดรับวิวกันแบบ 180 องศา ได้วิวกรุงเทพฯ ถึง 3 มุมมอง ทั้งวิวโค้งน้ำบางกะเจ้า วิวสวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางเมืองอย่างสวนเบญจกิติ ไปจนถึงวิวใจกลางเมืองสุขุมวิท-อโศกกันเลย … ถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดรับวิวสวยได้กว้างสุดสายตา สมกับที่เป็นไฮไลต์ของโครงการนี้เลยครับบ

บทสรุปเพิ่มเติม ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ … ในมุมมองของผมก็ต้องขอยอมรับเลยว่าประทับใจมากครับ อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ในส่วนของรายละเอียดการออกแบบ Function การใช้งานพื้นที่ต่างๆ ทางโครงการออกแบบมาได้ดีและตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่ที่หลากหลายตาม Concept การพัฒนาเลย นั่นคือ WORK – PLAY – CHILL – PEACE อย่างแท้จริง

ส่วนของการตกแต่งและการคัดสรรเลือกวัสดุมาใช้ในงานตกแต่ง ถือว่าทำออกมาได้ดีมากเช่นกัน ทั้งเรื่องของสไตล์ที่ดูมีความหรูหราแต่ยังคงมีส่วนผสมความโมเดิร์นซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวและดูดีมากตามมาตรฐานของแบรนด์ LIFE ในปัจจุบันเลยครับ

Unit Plan การอยู่อาศัยของโครงการนี้ … ทางโครงการจะเน้นไปที่การนำเสนอการอยู่อาศัยในสไตล์ห้องแบบ Simplex ที่ได้ความสูง Floor To Ceiling 2.6 ม. กับขนาดของพื้นที่ 26.5 – 75 ตร.ม.เป็นหลักนะครับ โดยในปัจจุบันทางโครงการจะมีการแต่งห้องตัวอย่างให้เราสามารถเข้าไปชมกันได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกันครับ

1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28.5 ตร.ม.

ในส่วนของการออกแบบ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28.5 ตร.ม. รูปแบบการจัดวางและการแบ่ง Function ทางโครงการจะใช้เป็นฉากกั้นกระจกใสบานเลื่อนในการแยกพื้นที่ต่างๆ ภายในห้อง เพื่อได้ความเป็นสัดส่วนและความโปร่งโล่งของพื้นที่อยู่อาศัย …

บริเวณทางเข้าห้องพักอาศัย เราจะพบกับชุดครัวที่พัฒนา Function การใช้งานที่ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ ต่อด้วยโซน LIVING ที่เชื่อมต่อทุกกิจกรรมพักผ่อนนั่งชิลดูหนังดูซีรี่ย์เรื่องโปรด ไปจนถึง BEDROOM พื้นที่สำคัญในการพักอาศัย และอีกหนึ่งความน่าสนใจของห้อง TYPE นี้ทางโครงการได้มีการตกแต่งพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เป็นทำงานเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกในการใช้พื้นที่ในส่วนนี้ออกมาได้มีความน่าสนใจมากเลยครับ หรือใครที่เป็นสายแฟชั่น ชอบแต่งตัว ก็สามารถจัดพื้นที่ส่วนนี้เป็น Walk-in Closet ได้เลยครับ

1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 32 ตร.ม.

ในส่วนของการออกแบบ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 32 ตร.ม. จะเป็น Unit Plan ที่มีความเรียบง่ายแต่จะได้ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้น จากการที่พื้นที่ Function : Bedroom ของ Unit Plan นี้ ทางโครงการเลือกจะกั้นพื้นที่ด้วยผนังทึบและใช้เป็นประตูแบบเปิดปิดแยกพื้นที่ส่วนตัว และส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom สามารถเข้าออกได้จากทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น ทำให้เวลาที่เราอยู่อาศัยจริงจะสะดวกสบายมากขึ้นครับ

1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 35 ตร.ม.

ในส่วนของการออกแบบ Unit Plan : 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 35 ตร.ม. น่าจะเป็น Unit Plan ที่ถูกใจสำหรับใครที่กำลังมองหารูปแบบการอยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติม โดยส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการมีการกั้นพื้นที่ในส่วนนี้เพิ่มเติมเข้ามารองรับสำหรับกิจกรรมต่างๆ ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน … ซึ่งจากห้องตัวอย่างทางโครงการได้มีการแต่งพื้นที่ในส่วนนี้ให้เป็นส่วนของมุมทำงานหรือห้องของลูกตัวน้อยเพิ่มเติมเข้ามาดูลงตัวแล้วน่าจะถูกใจสำหรับใครที่เป็นสายคู่รักที่วางแผนขยับขยายครอบครัวนั่นเองครับ

2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 65 ตร.ม.

สำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 65 ตร.ม. ถือว่าเป็นอีกหนึ่งใน Unit Plan ที่ผมมองว่าทางโครงการออกแบบพื้นที่ Function ออกมาได้ดีมาก แถมยังได้ความเป็น Layout ห้องแบบหน้ากว้างอีกด้วยนะครับ

โดยพื้นที่ Function ไฮไลต์ของ Unit Plan นี้ คือ พื้นที่ในส่วนของ Function : Living ที่จะได้ความกว้างของพื้นที่ที่ดูลงตัวมากๆ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในสไตล์ครอบครัว และพื้นที่ของ Function : Master Bedroom นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้นจากการมีพื้นที่ Function : Private Bathroom ที่เพิ่มเติมเข้ามาแล้ว ขนาดของพื้นที่ภายในตัวห้องก็ออกแบบจัดสรรขนาดของพื้นที่ออกมาได้กว้างมากเลยครับ

บทสรุปเพิ่มเติม ในส่วนของ Unit Plan พักอาศัยของโครงการนี้ … โดยเท่าที่เห็นจากการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ Function ของห้องตัวอย่างทั้ง 4 แบบ หากมองในมุมของ Real Demand ทั่วไป ผมว่าโครงการนี้เค้าออกแบบ Unit Plan ออกมาได้น่าสนใจและมีความหลากหลายในรูปแบบของการอยู่อาศัยที่น่าจะตอบโจทย์การเป็นตัวเลือกของได้หลากหลายกลุ่มถือว่าดีเลยครับ ดังนั้น Unit Plan ไหนที่น่าสนใจสำหรับ Real Demand อันนี้ก็คงอยู่ที่ความต้องการของแต่ละคนแล้วแหละครับ

แต่หากมองเผื่อในมุมของใครที่เป็นสาย Investment ปล่อยเช่า … เมื่อดูจากศักยภาพและปริมาณของ Demand บนทำเลนี้ ผมมองว่า Unit Plan ที่น่าสนใจและน่าจะตอบโจทย์สาย Investment ได้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นกลุ่มของ Unit Plan : 1 Bedroom ที่น่าจะตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้เช่าที่เป็นคนทำงานในเมืองและกลุ่มนักเรียนนักศึกษาได้ลงตัวมากที่สุดนะครับ

สำหรับบทความ Open House : LIFE Rama 4 – Asoke by AP ในครั้งนี้ก็จะประมาณนี้นะครับ กับหนึ่งในโครงการพร้อมอยู่ใจกลางเมืองของปีนี้จากทาง AP Thailand ที่ผมกล้าพูดแบบเต็มปากว่า …. หากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยบนทำเลที่มีศักยภาพเดินทางสะดวกใจกลางเมือง กับ Concept การพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางสุดอลังการ ในราคาคุ้มเกินคุ้มที่หาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว!!

ผมขอแนะนำ LIFE Rama 4 – Asoke by AP Thailand คือ โครงการที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยังไงก็ต้องหาเวลาแวะเข้าไปชมโครงการนี้ให้ได้ด้วยตาคุณเอง … ซึ่งผมเชื่อว่าคุณจะไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอนครับ

เพิ่มเติม

LIFE Rama 4 – Asoke

เปิดชมทุกรายละเอียด สเปซจริง ห้องจริง วิวจริง

พิเศษลงทะเบียนล่วงหน้า พร้อมราคาที่ดีที่สุด 1 BED RIVER VIEW 4.49 ล้านบาท

ข้อมูลเพิ่มเติม http://apth.ly/Life-RM4-ASOKE

#APTHAI #APCondo #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้ #APTHAIUpdate2024
#เริ่มชีวิตที่อยากใช้APคอนโด #LIFEพระราม4อโศก #LIFERama4Asoke